Tuesday, March 25, 2014

ว่าด้วยเรื่องของ "การบูร"


"การบูร" คนเราส่วนใหญ่จะรู้จักว่ามันเป็นผลึกสีขาวเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว การบูรนั้นมาจากต้นไม้ และก็มีประวัติเล่ากันต่อมาว่าเป็นไม้พันธุ์พื้นเมืองของประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน
ซึ่งการบูรนั้นก็สามารถพบเจอได้ทุกส่วนของลำต้น ไม่ว่าจะใบ ดอก หรือราก ซึ่งการบูรนั้นจะแทรกไปทุกๆส่วนเลยทีเดียว และเรายังสามารถนำแต่ละส่วนมากลั่นได้เป็นการบูรและตัวยาอื่นๆอีกมากมาย


สรรพคุณนั้น มีมากมายไม่ว่าจะใช้บรรเทาการปวด แมลงต่อย โรคผิวหนัง แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับเหงื่อ บำรุงธาตุ ระงับเชื้ออย่างอ่อน และการบูรแท้เมื่อโดนลิ้นจะเย็นๆไม่แสบร้อน
ส่วนกลิ่นที่ได้จากการ"ระเหิด"ของการบูร ไม่ใช่ระเหยนะครับ ใช้ลดกลิ่นอับได้ เนื่องจากการบูรเขาสามารถระงับเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของกลิ่นได้นั่นเอง อีกทั้งกลิ่นอ่อนๆ ยังช่วยผ่อนคลายได้อีกด้วย
ประโยชน์ของสิ่งใกล้ตัวที่หาได้ไม่ยากเลยนะครับ
ทุกวันนี้ก็ยังมีการนำการบูรมาแปรรูปบรรจุลงในสิ่งต่างๆ เพื่อให้ดูน่ารักหรือดูสวยงามมากขึ้น เช่น ตุ๊กตา หรือ ซองกระดาษพับเป็นรูปสัตว์ รูปเสื้อ รูปขนมเค้ก น่ารักๆ ต่างๆ อีกมากมาย สนใจหาดูเพิ่มเติมได้ไม่ยากครับ เผื่อจะเอามาใช้ในห้องเราๆ อาจช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ไม่มากก็น้อยกันเลยทีเดียว

Wednesday, March 12, 2014

แสงสีฟ้า อันตรายที่เรามอง(ไม่)เห็น






ไม่ได้มาเขียนนาน เลยหยิบยกบทความเก่าที่เคยเรียบเรียงมาเอามาลงดีกว่า
ใกล้ตัวหน่อยก็เรื่องของแสงแดดกับดวงตา ซึ่งแสงแดดนั้นก็มีอยู่ทุกที่ และโดยปกติคนไทยเรานั้นมีจำนวนน้อยมากที่จะให้ความสำคัญกับดวงตา แม้บางคนทำงานกลางแจ้งหรือต้องออกแดดตลอดเวลา ถ้าเทียบกับชาวต่างชาติเท่าที่ผมรู้จัก พวกเขามักจะมีแว่นตากันแดดติดตัวกันเลยทีเดียว ออกนอกอาคารเมื่อไรใส่เมื่อนั้น ซึ่งปกติแว่นตาพวกนี้ก็สามารถป้องกันแสง"ยูวี"ได้อยู่แล้ว แล้วแสงสีฟ้าที่ผมนำเรื่องล่ะเกี่ยวอะไรด้วย เราลองมาดูกัน
601272888947278.jpg

จริงๆแล้วแสงสีฟ้าคือแสงที่ผสมอยู่ในช่วงแสงสีขาวที่มนุษย์มองเห็น โดยแสงสีขาวที่มนุษย์มองเห็นสามารถแบ่งสีได้ 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และ แดง ฉะนั้นช่วงแสงสีฟ้ามีพลังงานมากพอที่จะมีอันตรายต่อจอประสาทตา ซึ่งแสงสีฟ้านั้นมีอยู่ในแสงแดด และแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่เราใช้ตามบ้านนั่นแหละครับ(ไม่ใช่หลอดนีออนนะ) ซึ่งแสงเหล่านี้อยู่รอบตัวมนุษย์ตลอดเวลา



675544945057481.gif

โดยปกติดวงตาของคนเราก็มีสามารถป้องกันแสงสีฟ้าได้อยู่แล้ว โดยเลนส์จะมีสีเหลืองเข้มมากขึ้นเมื่อมีคนเรานั้นมีอายุมากขึ้น ซึ่งสีเหลืองนี่แหละที่จะเป็นตัวกรองแสงสีฟ้าได้ดี



211705747991800.jpg

แล้ว Blue light เนี่ยมันมีอันตรายอย่างไรล่ะ
จากการศึกษาถึงอันตรายของแสงสีฟ้า (Blue light) พบว่ามีอันตรายต่อจอประสาทตา พบว่าเซลของชั้นจอประสาทตาชั้นนอกสุด (RPE: Retinal Pigment Epithelium) เมื่อสัมผัสกับแสงสีฟ้าจะทำให้เซลตายได้ เนื่องจากแสงสีฟ้ามีพลังงานมากพอที่จะไปกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระภายในลูกตา แล้วสารอนุมูลอิสระจะทำให้เซล จอประสาทตาตาย พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกและใส่เลนส์แก้วตาเทียมไปแล้ว มีโอกาสเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ในอัตราที่สูงกว่าผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกซะอีก

ทราบอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทะนุถนอมดวงตากันบ้างนะครับ เขาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ


ขอบคุณสาระดีๆจาก ThaiEye Clinic Center และรูปภาพประกอบจาก แว่นตา Bolle ครับ